ความแตกต่างระหว่างกะเหรี่ยงสะกอกับกะเหรี่ยงโปว์

เรื่อง  ความแตกต่างระหว่างกะเหรี่ยงสะกอกับกะเหรี่ยงโปว์ 

     บนโลกใบนี้จะเห็นได้ว่าการดำเนินชีวิตของสิ่งมีชีวิตต่างๆก็อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นพวกแตกแกมาเป็นประเทศ  จังหวัด  หมู่บ้านจะเห็นได้ว่าจะเป็นกลุ่มย่อยลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งแตกออกมาเป็นกลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยงสะกอเป็นชนเผ่าหนึ่งที่มีวิธีการดำเนินชีวิตขนบธรรมเนียมที่เรียบง่าย มีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ อยู่กินกับธรรมชาติ ชนเผ่ากะเหรี่ยงสะกอเป็นชนเผ่าที่ทีความรักใคร่ต่อกันและกัน   กะเหรี่ยงสะกอนั้นนอกจากการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายแล้วยังมีความคิดที่สร้างสรรค์หลากหลาย  เช่น  รู้จักการทำเสื้อหรือเครื่องนุ่งห่มต่างๆ ที่มีการทอจากมือเป็นลวดลายที่มีสีสัน  ทำให้ชนเผ่ากะเหรี่ยงสะกอได้นุ่งห่มเสื้อผ้าที่สวยงาม  ในด่านอาหารของกะเหรี่ยงสะกอนั้นมีลักษณะเป็นอาหารพื้นบ้านที่สามารถทำได้ง่ายและมีรสชาติที่อร่อย  เพราะกะเหรี่ยงสะกอมีลักษณะเป็นธรรมชาติจึงทำให้อาหารของกะเหรี่ยงสะกอเป็นอาหารแบบธรรมชาติล้วนๆไม่มีสารปนเปื้อน  และอาหารหลักๆของกะเหรี่ยงสะกอนั้นที่ผู้คนรู้จักกันทั่วไปคือ  แกงข้าวเบ๊อะ  แกงข้าวเบ๊อะหรือที่ชาวกะเหรี่ยงสะกอนั้นนิยมทำกันและรับประทานกันเป็นส่นใหญ่ซึ่งต่าพอเพ๊าะหรือข้าวเบ๊อะสามารถทำได้กับผักต่างๆหลายชนิด  เช่นผักกาด  ยอดฟักทอง  ผักกูด  หน่อไม้  หรือใส่กับเนื้อหมู  เนื้อไก่  ปลา  ต่างๆก็ได้แกงข้าวเบ๊อะนั้นจะมีรสชาตินี้กลมกล่อมและอร่อยมากขึ้น  และมีกลิ่นหอมเต็มไปด้วยสรรพคุณของพืชผักและคุณค่า 

        กะเหรี่ยงโปว์เป็นชนเผ่าที่ค่อนข้างเคร่งครัดในประเพณี และกะเหรี่ยงโปว์นั้นมักจะพบที่อำเภอแม่สะเรียง  จังหวัดแม่ฮ่องสอน  และอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ กะเหรี่ยงโปว์มีพยัญชนะ 25  ตัว  มีเสียงสระ 9  เสียง  สระประสมมี 5 เสียงอาหารกะเหรี่ยงโปว์มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เช่น แกงไก่ใส่หัวบุก ส่วนประกอบของอาหารนั้นได้แก่  หัวบุก  เนื้อไก่  ตะไคร้  กระเทียม  หอมแดง  ขมิ้น  พริกขี้หนู  กะปิ  วิธีทำหรือขั้นตอนในการทำนั้น  ให้ต้มหม้อแกงเทน้ำมันลงนิดหน่อย  หลังจากคั่วแกงกับเนื้อไก่พอได้ที่เทน้ำมันลงไปปริมาณพอดีและรอให้น้ำเดือดแล้วต้มหัวบุกจนเปื่อยและมีอาหารอีกอย่างหนึ่งที่เป็นอาหารหลักหรือที่นิยมทำกันคือน้ำพริกถั่วเน่าซึ่งส่วนประกอบก็มีดังนี้ ถั่วเน่า พริกแห้ง  กระเทียม  เกลือ  ผักชี  วิธีทำคือนำพริกแห้ง  เกลือ  กระเทียม ตำให้ละเอียดและใส่ถั่วเร่าลงไป  และตำเข้ากับพริกที่ตำละเอียดแล้ว  จากนั้นก็ปรุงใส่ผงชูรส  เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อย  จากนั้นก็ใส่น้ำนิดหน่อยและใส่แต่งเติมใบผักชี  จากนั้นก็สามารถนำมารับประทานกันได้ ส่วนพิธีแต่งงานของกะเหรี่ยงโปว์  เมื่อเป็นที่รู้ว่าชายหญิงรักชอบพอกัน  พ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะส่งคนไปหาฝ่ายชายเพื่อตกลงคุยกันและจัดพิธีแต่งงานให้กับทั้งสองคน แต่ฝ่ายชายต้องยินยอมและพร้อมที่จะอยู่ใช้ชีวิตกับฝ่ายหญิงถึงจะจัดพิธีแต่งงานได้ ในพิธีการแต่งงานนั้นหลังจากที่อยู่ร่วมกันสามวันสามคืนแล้วพ่อแม่ของเจ้าบ่าวและสาว  จะทำพิธีผูกขวัญให้ ซึ่งการผูกร่วมกันในครั้งนี้หมายความว่าทั้งสองคนได้กลายเป็นหนึ่งอันเดียวกันแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

             ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากะเหรี่ยงโปว์และกะเหรี่ยงสะกอเป็นชนเผ่าที่ทีความคล้ายคลึงกันในหลายๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นวีถีการดำเนินชีวิต  สำเนียงการพูดอาจคล้ายกันในบางคำ  และพิธีต่างๆนั้นก็มีความคล้ายคลึงกันด้วย จะเห็นได้ว่าชนเผ่ากะเหรี่ยงโปว์และกะเหรี่ยงสะกออาจเป็นพี่น้องกันในสมัยก่อนก็ได้  ดังนั้นเนื่องจากที่ข้าพเจ้าเองก็เป็นลูกหลานของชนเผ่ากะเหรี่ยงสะกอเราจึงรักษามิตรที่ดีต่อกะเหรี่ยงโปว์  และอนุรักษ์ชนเผ่าของตนเอง ให้อยู่สืบไปตลอดกาล